ยูฟ่าปรับเปลี่ยนการบังคับใช้กฏการเงินแบบใหม่ ซึ่งจะกำหนดให้แต่ละสโมสรมีเพดานการใช้จ่ายไว้ที่ 70% ของรายได้
คณะกรรมการบริหารของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ประกาศอนุมัติการใช้กฎการเงินรูปแบบใหม่ ซึ่งจะมาแทนที่กฎเดิมอย่าง ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ โดยกฎใหม่จะบังคับให้แต่ละสโมสรมีเพดานการใช้จ่ายอยู่ที่ 70% ของรายได้
ก่อนหน้านี้ ยูฟ่าได้นำกฎไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ มาบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2010 เพื่อป้องกันไม่ให้สโมสรใช้จ่ายเงินเกินตัว และป้องกันการเกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างสโมสร ทว่ากฎนี้ก็ยังมีช่องว่างให้บรรดาทีมใหญ่หาทางลบเลี่ยงในการเพิ่มรายได้ในรูปแบบต่าง ๆ อยู่ดี
ด้วยเหตุนี้ ยูฟ่าจึงตัดสินปรับรูปแบบกฎการเงินโฉมใหม่ โดยจะกำหนดเพดานสำหรับแต่ละสโมสรในการใช้จ่ายค่าเหนื่อย, ค่าตัวและค่าเอเยนต์ไว้ที่ 70% ของรายได้ ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป และเปิดโอกาสให้ทุกสโมสรได้มีโอกาสปรับตัวตามกฎใหม่เป็นเวลา 3 ปี
“กฎระเบียบทางการเงินฉบับแรกของยูฟ่า ซึ่งเปิดตัวในปี 2010 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยดึงระบบการเงินของฟุตบอลยุโรปกลับมาจากปากเหว และปฏิวัติวิธีการบริหารสโมสรฟุตบอลในยุโรป”
“อย่างไรก็ตาม วิวัฒนาการของอุตสาหกรรมฟุตบอล ควบคู่ไปกับผลกระทบทางการเงินที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของโรคระบาดใหญ่ ได้แสดงให้เห็นความจำเป็นในการปฏิรูปกฎระเบียบด้านความยั่งยืนทางการเงินฉบับใหม่” อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานยูฟ่า กล่าว
ทั้งนี้ ช่วงเวลา 3 ปีที่ยูฟ่าเปิดโอกาสให้แต่ละสโมสรได้ปรับตัว จะเริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2023-24 ที่จะกำหนดเพดานการใช้จ่ายไว้ที่ 90% ของรายได้ และจะลดเหลือ 80% ของรายได้ในฤดูกาล 2024-25 กระทั่งจะเริ่มบังคับใช้เพดานการใช้จ่าย 70% ของรายได้ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป