หลังผลจับสลากรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2022 สิ้นสุดลง คุณคิดว่าใครเป็นผู้ชนะ และ ผู้แพ้
เหลือเวลาอีกเพียง 7 เดือน ศึกฟุตบอลโลก 2022 จะเปิดฉากขึ้น และการจัลสลากรอบแบ่งกลุ่มได้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถึงตอนนี้ (2 เมษายน) มี 29 ทีมที่ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ขณะที่อีก 3 ที่ว่างยังต้องรอผลจากรอบเพลย์ออฟ
บางประเทศมีรอยยิ้มเมื่อทราบผลจับสลากรอบแบ่งกลุ่ม ขณะที่บางประเทศถึงกับต้องกุมหัว เรารองมาดูกันว่าทีมใดเป็นผู้แพ้และผู้ชนะในการจับสลากครั้งนี้…
ผู้ชนะ – อังกฤษ
อังกฤษ ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเมื่อสีปีที่แล้วและถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ของกลุ่ม B
พวกเขาอาจต้องพบกับ ยูเครน หรือสองทีมร่วมสหราชอาณาจักรอย่าง เวลส์ และ สก็อตแลนด์ ซึ่งยังต้องรอผลเพลย์ออฟ
อย่างไรก็ตาม อีกสองทีมร่วมกลุ่มปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชื่อชั้นยังเป็นรองทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกท พอสมควรทั้ง อิหร่าน ที่ไม่ได้ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายใน 5 ครั้งก่อนหน้านี้ และ สหรัฐอเมริกา ที่เคยเอาชนะสิงโตคำรามได้เมื่อฟุตบอลโลกปี 1950 แต่ในครั้งนี้ต้องบอกบอกว่าเป็นงานหนักหากจะทำแบบนั้นได้
ผู้แพ้ – กาตาร์
กาตาร์ เจ้าภาพต้องเจองานหนักตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ในการเล่นฟุตบอลโลกครั้งแรกของพวกเขา
พวกเขาต้องเริ่มต้นด้วยการพบกับ เอกวาดอร์ ทีมแกร่งจากโซนอเมริกาใต้ ซึ่งอาจจะเป็นงานที่เบาสุดในรอบนี้
อีกสองเกมที่เหลือแชมป์เอเชียนคัพ 2019 ต้องเจองานสุดหิน เมื่อมี เซเนกัล ของ ซาดิโอ มาเน รออยู่ ขณะที่เกมสุดท้ายต้องพบ เนเธอร์แลนด์ ที่ทำผลงานได้ร้อนแรงในรอบคัดเลือกโซนยุโรป
ผู้ชนะ – ฝรั่งเศส
ไม่มีทีมใดป้องกันแชมป์ได้ นับตั้งแต่ที่ บราซิล เคยทำไว้เมื่อปี 1962 แต่ฝรั่งเศสมีโอกาสจะทำได้ในฟุตบอลโลกครั้งนี้
ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ น่าจะมีรอยยิ้มได้กับผลการจับสลากรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อพวกเขาไม่ต้องเจอบรรดาบิ๊กทีมจากยุโรปทั้งหลาย
งานหนักที่สุดของทัพตราไก่คือเกมนัดที่สองที่ต้องพบกับ เดนมาร์ก ก่อนหน้านั้นพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอีกหนึ่งทีมในรอบเพบลย์ออฟอย่าง ยูเออี, เปรู หรือ ออสเตรเลีย
ส่วนนัดสุดท้ายต้องพบ ตูนิเซีย ซึ่งมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะผ่านเข้ารอบได้แบบไม่ยากนัก
ผู้แพ้ – บราซิล
นี่คือทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของฟุตบอลโลก และถูกยกให้เป็นทีมเต็งแชมป์ทุกครั้งในรายการนี้
แต่ครั้งนี้พวกเขาอาจต้องลุ้นหนักตั้งแต่เริ่ม เมื่อถูกจับสลากให้มาอยู่ในกลุ่มที่หลายคนยกให้เป็น ‘กรุ๊ป ออฟ เดธ’
เซเลเซา ต้องประเดิมด้วยการพบกับ เซอร์เบีย ที่ไม่แพ้ใครในรอบคัดเลือกแม้จะอยู่กลุ่มเดียวกับโปรตุเกส ขณะที่เกมสองต้องพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ ที่เคยทำแสบกับ อิตาลี ในรอบคัดเลือกมาแล้ว
อีกหนึ่งทีมอย่าง แคเมอรูน แม้ชื่อชั้นจะเป็นรองทุกทีมในกลุ่ม แต่พวกเขาจะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญในรอบแบ่งกลุ่มแน่นอน
ผู้ชนะ – เบลเยียม
นี่อาจเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของขุนพลทีมชาติเบลเยียมชุด ‘Golden Generation’ ที่เพิ่งโดนบราซิลแซงขึ้นอันดับ 1 ในฟีฟ่าแรงกิ้ง
แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันว่าใครจะอำลาทีมชาติหลังจบฟุตบอลโลกครั้งนี้ แต่ผู้เล่นอย่าง เอเด็น อาซาร์, เควิน เดอ บรอยน์ และ อาเซล วิตเซล จะอายุมากก่า 33 ปี ในฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปครั้งหน้า
นักเตะหลายคนในทีมชุดนี้ประสบความสำเร็จในระดับสโมสร และแฟนบอลหวังว่าพวกเขาจะต่อยอดมาในระดับทีมขาติได้
เพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง แคนาดา, โมร็อคโก และ โครเอเชีย ไม่ใช่งานที่หนักมากนักของ เบลเยียม และพวกเขาอาจเริ่มมองไปถึงรอบน็อคเอาท์แล้ว
ผู้แพ้ – อุรุกวัย
กลุ่ม H ไฮไลท์อยู่ที่ อุรุกวัย อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของสตาร์ดังอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ และ เอดินสัน คาวานี
ซัวเรซ ตกเป็นผู้ร้ายเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เมื่อการเซฟด้วยมือของเขาทำให้ กานา ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่แอฟริกาใต้ และฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ทั้งสองทีมต้องมาพบกันอีกครั้ง
เช่นเดียวกับ โปรตุเกส ที่อาจเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของ คริสเตียโน โรนัลโด้ เช่นกัน ดังนั้น CR7 และเพื่อนร่วมทีมพร้อมใส่เต็มที่อย่างแน่นอน
เกาหลีใต้ ถูกมองว่าเป็นทีมที่อ่อนสุดในกลุ่ม อย่างไรก็ตามยักษ์ใหญ่จากเอเชียพร้อมทำแสบกับทุกทีมแน่นอนถ้าประมาทพวกเขา
