อดีตกุนซือต่อพิฆาตพักงานโค้ชกลับไปดูแลอคาเดมีส่วนตัว แต่ไม่ปิดโอกาสคุมช้างศึกยุทธหัตถี
อิสสระ ศรีทะโร อดีตหัวหน้าผู้สอน พีที ประจวบ เอฟซี เผยสาเหตุที่ไม่ไปต่อกับทีมว่าเป็นเพราะติดภารกิจทำโรงเรียนสอนฟุตบอลส่วนตัวที่บ้านเกิดจังหวัดสุพรรณบุรี
เฮ้ดโค้ชวัย 42 ปี พาต่อพิฆาตหนีตกชั้นอยู่รอดบนไทยลีกได้สำเร็จ พร้อมกับพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศในศึก รีโว่ ลีกคัพ แต่ไปไม่ถึงฝั่ง หลังพ่ายกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-4 ก่อนแยกทางทีมดังแห่งเมืองสามอ่าวในที่สุด
“อย่างแรกเลยก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยนะครับที่ได้ 3 แชมป์ และต้องขอบคุณกองเชียร์ของเราที่เดินทางมาเชียร์ อาจจะผิดหวังเรื่องผลการแข่งขันแต่ผมว่ามันเป็นบรรยากาศที่ดีที่เราได้มาเล่นนัดชิงนัดนี้ ซึ่งเราก็มาไกลเกินกว่าที่เราคาดไว้ด้วยซ้ำไป” โค้ชหระ กล่าวเริ่ม
“เราก็ต้องขอบคุณท่านผู้บริหารแล้วก็น้อง ๆ ทีมสต๊าฟโค้ชที่ทำให้การทำงานของผมมันสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อาจจะมีช่วงเวลาที่สุขบ้าง ทุกข์บ้าง เหนื่อยยากบ้าง ทุกคนก็ทำงานร่วมกันจนถึงตอนนี้ ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีทุกคน”
สำหรับเหตุผลที่ไม่คุมทีมต่อในฤดูกาลหน้า กุนซือต่อพิฆาตให้เหตุผลว่า “คือจริง ๆ แล้วเหตุการณ์มันเกิดขึ้นก่อน 5 นัดสุดท้าย ตอนนั้นเราขึ้นมามีประมาณ 30 แต้ม ซึ่งผมมองว่าเรามีโอกาสรอดสูงแล้ว ซึ่งเราต้องการแค่ 1 หรือ 2 แต้ม และผมมีภารกิจทางบ้าน ผมเปิดโรงเรียนสอนฟุตบอลที่บ้าน ซึ่งมันก็เป็นความดูแลของผม ผมต้องกลับมาดูแลโดยตรงน่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน พอดูจากระยะเวลาทั้งหมดแล้วมันไม่สามารถที่จะทำทีมได้เพราะมันเป็นช่วงปรีซีซั่นซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญมากสำหรับฟุตบอล จริง ๆ เสียดายมากเพราะว่าผมเห็นการทำงานทุกอย่าง เห็นผู้เล่นทุกคนแล้วว่าจุดไหนจะต้องเสริมหรือทำอะไรยังไง ผมเสียดายจริง ๆ แต่เราก็ไม่อยากจะเอาเปรียบสโมสร ถ้าเราขอไม่ทำงานสัก 3 เดือนแล้วกลับมาทำผมเชื่อว่าตัวนายกเองนี่คงน่าจะให้แต่เพียงแต่ว่าเราคงทำไม่ได้เพราะว่าอย่างที่บอกฟุตบอลช่วงปรีซีซั่นมันสำคัญมาก ๆ ครับตั้งแต่การเลือกตัวหรือฝึกซ้อมอะไรต่าง ๆ นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ผมแนะนำเพื่อนผมให้มาทำทีมต่อ”
อย่างไรก็ตามอดีตกุนซือชุดเยาวชนทีมชาติไทยตกเป็นข่าวลือว่าอาจถูกดึงไปคุมทีมสุพรรณบุรี เอฟซี ที่เพิ่งตกชั้นสู่ไทยลีก 2 ก่อนจะยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก แม้จะไม่ปิดกั้นข้อเสนอก็ตาม
“จริง ๆ แล้วไม่ได้มีการติดต่อกันโดยตรง กับทางผู้บริหารของสุพรรณ ผมก็เคยได้ยินข่าวนี้มาเหมือนกัน แต่มันคงเป็นไปได้ยาก เพราะว่าอย่างที่ผมบอกไปผมมีภารกิจที่ต้องทำ ถามว่าผมไปทำได้ไหมถ้ามีโอกาสก็ไปทำได้เพราะว่ามันไม่ได้อยู่ไกลจากที่ทำงานด้วย ตรงนี้ก็ต้องรอความชัดเจนต่อไปครับ”
“ต้องขอบคุณจริง ๆ ครับที่ซัพพอร์ตในช่วงที่เรามีช่วงที่ดีและไม่ดี และก็เรื่องเดินทางใกล้หรือไกลเนี่ย มีหลาย ๆ ท่านเดินทางมาตลอดเรื่องนี้ผมต้องขอบคุณมาก ๆ ครับ สำหรับผมตอนนี้ก็กลายเป็นแฟนบอลของ พีที ประจวบ คนหนึ่ง ก็จะตามเชียร์และอยากให้ทีมประสบความเร็จต่อไปครับ”
สำหรับ พีที ประจวบ เอฟซี เตรียมดึง ‘โค้ชโจ’ ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น อดีตกุนซือนครราชสีมา มาสด้า เอฟซีเข้ามาคุมทัพแทนในฤดูกาลหน้า
