ตำนานกองกลางของปีศาจแดง ยอมรับว่าอดีตต้นสังกัดเป็นรองทีมใหญ่อื่น ๆ เรื่องการปลุกปั้นดาวรุ่งซึ่งทีมได้เปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ในช่วงไม่กี่ปีหลังสุด
นิคกี้ บัตต์ เผยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัดกำลังกลับมาให้ความสำคัญเรื่องการปั้นดาวรุ่งอีกครั้ง หลังตกเป็นรองทีมใหญ่ทีมอื่น ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
บัตต์ เป็นหนึ่งในผลผลิตของอคาเดมี่ของปีศาจแดง โดยเขาก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่และลงสนามให้กับทีมช่วงปี 1992-2004 โดยหลังจากแขวนสตั๊ดเขามีโอกาสได้หวนกลับมาร่วมงานกับทีมในปี 2012 ทั้งในบทบาทของกุนซือทีมสำรอง และหัวหน้าศูนย์อคาเดมี่ของสโมสร ก่อนแยกทางในช่วงต้นปี
แม้ แมนฯ ยูฯ จะเคยขึ้นชื่อเรื่องการมีดาวรุ่งก้าวจากอคาเดมี่ขึ้นมาประสบความสำเร็จกับทีมชุดใหญ่ในรุ่น 92 ของเขาอย่าง เดวิด เบ็คแฮม, แกรี-ฟิล เนวิลล์, พอล สโคลส์ และ ไรอัน กิ๊กส์ และในปัจจุบันกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เมสัน กรีนวู้ด รวมทั้งดาวรุ่งชุดใหม่อย่าง ฮานนิบัล เมจบรี้, อัลบาโร เฟร์นานเดซ, อาหมัด ดิยัลโล, ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ ที่ทีมดึงตัวมา
บัตต์ ยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมาทีมเริ่มชะล่าใจกับความคิดดังกล่าวจนเริ่มตามหลังทีมใหญ่ทีมอื่น ๆ แต่ทีมเริ่มกลับมาให้ความสำคัญกับการเสาะหาดาวรุ่งมาร่วมทีมอีกครั้ง
“เราตามหลังทีมอื่น ถ้าว่ากันตามตรง เอ็ด (วู้ดเวิร์ด), บอร์ดบริหาร และเจ้าของทีมเพิ่งรู้ตัว แดละมันต้องใช้เงินเสริมทัพในการไล่ตามทีมอื่นเพื่อสิ่งนั้น”
“ยูไนเต็ด คว้าตัวดาวรุ่งระดับท็อปของยุโรปมาร่วมทีม อย่างเช่น ฮานนิบัล (เมจบรี้) เราคว้าตัวฟูลแบ็คดาวรุ่งฝีเท้าฉกาจมาจากสเปน คุณจะเห็นได้ว่าสโมสรอื่นเริ่มพูดแล้วว่า ‘แมนฯ ยูไนเต็ดกลับมาแล้ว’ “
“เราเคยติดอยู่กับการคิดว่าดาวรุ่งทุกคนต้องการย้ายมาแมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้เราไม่ต้องพยายามอะไร แต่เราทำนะ มีหลายสโมสรใหญ่ระดับใกล้เคียงกับเราที่ร่วมวงแย่งชิงนักเตะด้วย มันเห็นได้ชัดและมันก็เปลี่ยนแปลงไป”
“เราต้องเป็นทีมที่นำหน้า และเราต้องคว้าดาวรุ่งที่ดีที่สุดเท่านั้นมาร่วมทีม คุณไม่สามารถพึ่งพาดาวรุ่งท้องถิ่นได้ตลอดไปหรอกนะ”